ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
  
    หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก   
 
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สิงห์งาแกะพิมพ์ใหญ่ ฐานจาร ยานะอิติ  (อ่าน 6778 ครั้ง)
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 10:55:30 am »

สิงห์ตัวนี้แกะสวยมากและตัวใหญ่ใต้ฐานจารยานะอิติ เลยอดใจไม่ได้ต้องเช่าเอาไว้นานแล้วเช่นกัน
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 10:56:19 am »

สิงห์ตัวนี้แกะสวยมากและตัวใหญ่ใต้ฐานจารยานะอิติ เลยอดใจไม่ได้ต้องเช่าเอาไว้นานแล้วเช่นกัน
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 10:57:04 am »

สิงห์ตัวนี้แกะสวยมากและตัวใหญ่ใต้ฐานจารยานะอิติ เลยอดใจไม่ได้ต้องเช่าเอาไว้นานแล้วเช่นกัน
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 10:57:51 am »

สิงห์ตัวนี้แกะสวยมากและตัวใหญ่ใต้ฐานจารยานะอิติ เลยอดใจไม่ได้ต้องเช่าเอาไว้นานแล้วเช่นกัน
บันทึกการเข้า
toi
Global Moderator
Hero Member
*****
กระทู้: 5117


« ตอบ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 04, 2010, 08:48:45 pm »

สวยดีนะครับ 
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 05, 2010, 09:01:21 am »

สวยดีนะครับ 

ขอบพระคุณครับป๋าtoi
บันทึกการเข้า
มธ.
Full Member
***
กระทู้: 118


อีเมล์
« ตอบ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2010, 11:59:00 am »

ผมว่าไม่น่าจะใช้นะครับ รอยจารไม่เป็นธรรมชาติ ถ่ายชัดๆ ได้มัยครับอยากเห็น 
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2010, 12:31:20 pm »

ผมว่าไม่น่าจะใช้นะครับ รอยจารไม่เป็นธรรมชาติ ถ่ายชัดๆ ได้มัยครับอยากเห็น 

ถ่ายได้แค่นี้เองครับ สงสัยต้องจ้างเขาถ่ายแล้วสิ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 10:31:56 am »

คาถาสิงหราช

ตะมัดถัง  ปะกาเส็นโต  ตัวกูผู้ชื่อว่า  ราชชะสิงโห
สัดถาอาหะ  ไกรสอน  ราชชะสีวิยะ  อิมังคาถะมาหะ
อิสุจุระ สีหะนาทัง



 
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 11:29:41 am »

สิงหราช

   ต่อไปจะกล่าวถึงเครื่องรางรูปสิงห์ของหลวงพ่อที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสกเอาไว้ เครื่องรางรูปสิงห์นี้เป็นสัตว์ในเทพนิยายหรือบนสวรรค์ รูปแบบคล้าย ๆ ของเบียร์ไทยตราสิงห์นั่นแหละ คือเป็นสัตว์ชั้นสูง ไม่ใช่สิงโต คือคนเรานี้จะคล้องเครื่องรางอะไรก็ต้องให้มันดูสูงหน่อย เช่น จะคล้องหมูตัวเล็ก ๆ ก็ควรจะเป็นหมูทองแดง จะคล้องรูปควาย ก็ควรจะเป็นควายธนู เป็นต้น เกี่ยวกับวิชาสิงหราชนี้ หลวงพ่อเรียนมาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อเคยสร้างผ้ายันต์สิงห์คู่ตำราหลวงพ่อเดิม และเคยสร้างผ้ายันต์และเสื้อยันต์ เป็นยันต์ดอกบัวตำราตรงกับของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก นอกจากนี้หลวงพ่อยังชอบสิงห์เป็นพิเศษ จะเป็นตำรายันต์ท่านก็ดี ใบลานจารึกคาถาก็ดี หลวงพ่อจะตอกยันต์รูปสิงห์ชูคอเอาไว้ คือสิงห์ของหลวงพ่อจะชูคอสง่า หลวงพ่อยังใช้ปั๊มรูปถ่ายชนิดเล็กรุ่นแรกของท่านเอาไว้ด้วย แม้ที่เป็นพระเครื่องก็มี เช่น สมเด็จด้านหลังเป็นรูปสิงห์ลายเส้น นอกจากนั้นยังมีสมเด็จที่หลวงพ่อสั่งทำ เป็นสมเด็จขี่สิงห์ หลังสิงห์ก็ยังมี
   รูปแบบสิงห์ของหลวงพ่อมีหลายแบบ ชนิดสั่งทำเป็นตะกั่วกะไหล่ทองก็มี กาหลั่ยทองยกขาตัวเล็กก็มี ชนิดที่มีมากเป็นตะกั่วชูคอ ชนิดนี้เข้าใจว่าสั่งทำเช่นกัน แต่บางคนบอกว่าได้จากรุ จังหวัดสิงห์บุรี ชนิดที่เป็นงาช้างแกะก็มี ชนิดนี้ดูยาก เพราะช่างพยุหะแกะฝีมือเหมือนกันหมด นอกจากจะแกะเหมือนกันแล้ว ยังหาความงามไม่ได้เลย แต่ก็มีอยู่รุ่นหนึ่งที่แกะได้สวยมากแต่หาดูได้ยาก นอกจากนั้นยังมีชนิดตะกั่วหลวงพ่อหล่อเองรุ่นนี้สวยมาก
   ต่อไปเป็นคาถาสิงหราชของหลวงพ่อ มีลายมือของท่านเป็นหลักฐานยังมี คาถานี้คล้ายคลึงกับของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว คาถาว่าดังนี้ใช้คู่กับสิงห์
   ตะมัดถัง  ปะกาเส็นโต  ตัวกูผู้ชื่อว่า  ราชชะสิงโห
   สัดถาอาหะ  ไกรสอน  ราชชะสีวิยะ  อิมังคาถะมาหะ
   อิสุจุระ สีหะนาทัง
   คาถานี้เขียนตามหลวงพ่อเขียนทุกอย่าง เขียนเป็นคำอ่าน คาถานี้จะใช้คาถาอย่างเดียวก็ได้ แต่ทั้งสิงห์และคาถาถ้าใช้จนขึ้นใจแล้ว ถ้าเป็นคนค้าขายจะขายไม่ดี คนจะเกรงอำนาจ คือขายของไม่ดี ถ้าเป็นข้าราชการจะดี หรือขณะผจญภัยผู้ร้าย หรือศัตรูภาวนาจะดี อำนาจของพระคาถานี้ ถ้าภาวนาจนขึ้นใจ จะมีตบะและอำนาจเหนือคน
   ต่อไปจะขอเล่าถึงอภินิหารของสิงห์ และคาถาสิงหราชของหลวงพ่อเอาไว้สัก ๒ – ๓ เรื่อง
   เรื่องแรก ช่างป้อม เป็นคนเดิมบาง แกเป็นช่างก่อสร้าง เคยไปสักน้ำมันกับหลวงพ่อ หลวงพ่อให้คาถาสิงห์มา คือแกสักสิงห์ คนสักน้ำมันนี่เวลาฝนตก หรือฤดูหนาวจะหนาวมาก แกใช้คาถาสิงห์ขึ้นมาก เวลาแกเดินภาวนา เดินผ่านบ้านคนหมาไม่เห่า แปลกมาก แกเคยมาทำงานบ้านผม หมาผมปกติต้องเห่าพอเจอแกเงียบ ร้องหงิง ๆ เลย แปลกมาก ผมเลยคุยกับแกถามถึงสาเหตุเพราะผมรู้ว่าแกต้องมีของดี แกเลยเล่าให้ฟังว่าแกใช้คาถานี้
   เรื่องที่สอง คุณบุญชู เป็นพนักงานบนอำเภอ แผนกสำมะโนประชากร อยู่จังหวัดชัยนาท แกใช้สิงหราชกับคาถาของหลวงพ่อ แกคอยจะใช้ผิดสถานที่หรือไงนี่แหละ จะเป็นด้วยตบะสิงห์ในตัวหรือคาถาหรือหน้าตาแกไม่แน่ชัด พอแกถามคนที่มาติดต่อบางทีก็ถามดี ๆ นี่แหละ พอถามหนที่สองบางทีคนที่มาติดต่อกำลังยืนอยู่ถึงกับรูดลงมานั่งยอง ๆ ยกมือไหว้เลย แต่มีผลเสียคือเจ้านายเกรงใจ ผลข้างเคียงของความเกรงใจตามมาคือ ไม่เรียกใช้และเกรง ๆ เกลียด ๆ แต่ถ้าเป็นหัวหน้าเขา รู้สึกดีมากลูกน้องรักและเกรงใจ แต่ถ้าไปติดต่อกับเจ้านายก็ดีเหมือนกัน
   เรื่องที่สาม ศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่งชื่อสมนึก เป็นคนสรรค์บุรี เป็นพ่อค้าตลาดเช้า ปกติไปขายของมีปลัดของหลวงพ่อติดตัวไปขายของดี วันหนึ่งกิจการขายของดีขึ้นเรื่อย เลยให้ภรรยามาตั้งหาบขายของช่วยอีกทีหนึ่งขายคนละที่ คุณสมนึกเลยถอดปลัดให้ภรรยาไปติดตัวเพราะเคยใช้ได้ผลดี ส่วนตนเองได้ไปหยิบสิงห์ตะกั่วของหลวงพ่อมาอาราธนาติดตัวไปขายของ จะเป็นด้วยตบะในตัวคุณสมนึกที่มีสิงห์ติดตัว หรือคุณสมนึกจะดวงไม่ดีไม่แน่ชัด ปรากฏว่าแกขายของไม่ได้เลย พอมีคนถามแล้วมองหน้าแกเขาไม่ต่อแต่เดินผ่านไปเฉย ๆ จนสายก็ขายของไม่ได้ สนภรรยาแกขายหมดไปแล้ว ใหม่ ๆ แกก็ไม่แน่ใจ ตอนหลังเอาติดตัวไปอีก ไม่มีใครกล้าต่อราคาไม่ถามเฉย ๆ เลย แกเลยให้ข้อยุติว่าสิงห์ของหลวงพ่อขายของไม่ดี คนเกรงใจ คนกลัว
   เรื่องที่สี่ เรื่องสุดท้ายแล้วกัน ศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่งชื่อ สมาน ยอดย้อย  เป็นนักเลงเป็นคนจริง บ้านเดิมเป็นคนใกล้ ๆ วัด ปัจจุบันทราบว่าอยู่ทางประตูน้ำ บางประอิน อยุธยา เป็นคนหนึ่งที่ยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ เคยโดนยิงมานักต่อนักนับครั้งไม่ถ้วน โอกาสหน้าจะนำเรื่องชีวิตของพี่สมาน มาเล่าให้ศิษย์รุ่นหลังได้ฟัง ผมเคยพบพี่สมาน ครั้งที่มาบวชแก้บนให้หลวงพ่อที่วัด พี่สมานเล่าว่าขณะอยู่ในป่าในดง นอนอยู่ใต้ต้นไม้ ในถ้ำ เคยเจอกับเจ้าถ้ำ เคยเจอกับนางไม้ แกใช้คาถาสิงหราชนี้ภาวนา นางไม้ เจ้าถ้ำ เจ้าป่าไม่มายุ่งกับแกเลย เวลาภายนาแม้จักจั่นก็ไม่ร้อง หนูและแมลงไม่มารบกวนเลยเป็นอัศจรรย์ คาถานั้นหลวงพ่อให้ไปแกใช้ควบกับคาถาเสือสมิง
   เกี่ยวกับสิงห์ของหลวงพ่อก็คงจบเพียงเท่านี้ อภินิหารไม่มากนักแต่ใช้ติดตัวดี รูปแบบดูยากสักหน่อย เคยเจอของลุงสุรินทร์เป็นกรรมการวัด เนื้องาช้างแกะ หนหนึ่งหายไป ตอนหลังไปเจอในกองไฟ ดับไฟแล้ว เอะใจไปเขี่ย ๆ ดู ปรากฏว่าไม่ไหม้ไฟ พลาสติกก็ไม่ไหม้ นับว่าแปลกมาก ก็ขนาดขวดกระทิงแดงยังละลาย แต่สิงห์ของหลวงพ่อไม่ไหม้ ก็ขอจบเรื่องสิงหราชแต่เพียงนี้....
   ที่มา : คัดลอกมาจากหนังสือนะโม ๒ ฉบับ เป็นบทความที่เขียนโดย เฒ่า  สุพรรณ     
   ฉบับแรก คือ ฉบับที่ ๓๑๗ ประจำวันที่ ๕ – ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕
   ฉบับที่สอง คือ ฉบับที่ ๓๑๘ ประจำวันที่ ๑๕ – ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕

 
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 11:32:09 am »

คาถาสิงหราช

ตะมัดถัง  ปะกาเส็นโต  ตัวกูผู้ชื่อว่า  ราชชะสิงโห
สัดถาอาหะ  ไกรสอน  ราชชะสีวิยะ  อิมังคาถะมาหะ
อิสุจุระ สีหะนาทัง



 


แต่ก็มีอยู่รุ่นหนึ่งที่แกะได้สวยมากแต่หาดูได้ยาก
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 11:48:58 am »

สิงหราช

   ต่อไปจะกล่าวถึงเครื่องรางรูปสิงห์ของหลวงพ่อที่หลวงพ่อสร้างและปลุกเสกเอาไว้ เครื่องรางรูปสิงห์นี้เป็นสัตว์ในเทพนิยายหรือบนสวรรค์ รูปแบบคล้าย ๆ ของเบียร์ไทยตราสิงห์นั่นแหละ คือเป็นสัตว์ชั้นสูง ไม่ใช่สิงโต คือคนเรานี้จะคล้องเครื่องรางอะไรก็ต้องให้มันดูสูงหน่อย เช่น จะคล้องหมูตัวเล็ก ๆ ก็ควรจะเป็นหมูทองแดง จะคล้องรูปควาย ก็ควรจะเป็นควายธนู เป็นต้น เกี่ยวกับวิชาสิงหราชนี้ หลวงพ่อเรียนมาจากหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ หลวงพ่อเคยสร้างผ้ายันต์สิงห์คู่ตำราหลวงพ่อเดิม และเคยสร้างผ้ายันต์และเสื้อยันต์ เป็นยันต์ดอกบัวตำราตรงกับของหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก นอกจากนี้หลวงพ่อยังชอบสิงห์เป็นพิเศษ จะเป็นตำรายันต์ท่านก็ดี ใบลานจารึกคาถาก็ดี หลวงพ่อจะตอกยันต์รูปสิงห์ชูคอเอาไว้ คือสิงห์ของหลวงพ่อจะชูคอสง่า หลวงพ่อยังใช้ปั๊มรูปถ่ายชนิดเล็กรุ่นแรกของท่านเอาไว้ด้วย แม้ที่เป็นพระเครื่องก็มี เช่น สมเด็จด้านหลังเป็นรูปสิงห์ลายเส้น นอกจากนั้นยังมีสมเด็จที่หลวงพ่อสั่งทำ เป็นสมเด็จขี่สิงห์ หลังสิงห์ก็ยังมี

   รูปแบบสิงห์ของหลวงพ่อมีหลายแบบ ชนิดสั่งทำเป็นตะกั่วกะไหล่ทองก็มี กาหลั่ยทองยกขาตัวเล็กก็มี ชนิดที่มีมากเป็นตะกั่วชูคอ ชนิดนี้เข้าใจว่าสั่งทำเช่นกัน แต่บางคนบอกว่าได้จากรุ จังหวัดสิงห์บุรี ชนิดที่เป็นงาช้างแกะก็มี ชนิดนี้ดูยาก เพราะช่างพยุหะแกะฝีมือเหมือนกันหมด นอกจากจะแกะเหมือนกันแล้ว ยังหาความงามไม่ได้เลย แต่ก็มีอยู่รุ่นหนึ่งที่แกะได้สวยมากแต่หาดูได้ยาก นอกจากนั้นยังมีชนิดตะกั่วหลวงพ่อหล่อเองรุ่นนี้สวยมาก

   ต่อไปเป็นคาถาสิงหราชของหลวงพ่อ มีลายมือของท่านเป็นหลักฐานยังมี คาถานี้คล้ายคลึงกับของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว คาถาว่าดังนี้ใช้คู่กับสิงห์

   ตะมัดถัง  ปะกาเส็นโต  ตัวกูผู้ชื่อว่า  ราชชะสิงโห
   สัดถาอาหะ  ไกรสอน  ราชชะสีวิยะ  อิมังคาถะมาหะ
   อิสุจุระ สีหะนาทัง

   คาถานี้เขียนตามหลวงพ่อเขียนทุกอย่าง เขียนเป็นคำอ่าน คาถานี้จะใช้คาถาอย่างเดียวก็ได้ แต่ทั้งสิงห์และคาถาถ้าใช้จนขึ้นใจแล้ว ถ้าเป็นคนค้าขายจะขายไม่ดี คนจะเกรงอำนาจ คือขายของไม่ดี ถ้าเป็นข้าราชการจะดี หรือขณะผจญภัยผู้ร้าย หรือศัตรูภาวนาจะดี อำนาจของพระคาถานี้ ถ้าภาวนาจนขึ้นใจ จะมีตบะและอำนาจเหนือคน

   ต่อไปจะขอเล่าถึงอภินิหารของสิงห์ และคาถาสิงหราชของหลวงพ่อเอาไว้สัก ๒ – ๓ เรื่อง

   เรื่องแรก ช่างป้อม เป็นคนเดิมบาง แกเป็นช่างก่อสร้าง เคยไปสักน้ำมันกับหลวงพ่อ หลวงพ่อให้คาถาสิงห์มา คือแกสักสิงห์ คนสักน้ำมันนี่เวลาฝนตก หรือฤดูหนาวจะหนาวมาก แกใช้คาถาสิงห์ขึ้นมาก เวลาแกเดินภาวนา เดินผ่านบ้านคนหมาไม่เห่า แปลกมาก แกเคยมาทำงานบ้านผม หมาผมปกติต้องเห่าพอเจอแกเงียบ ร้องหงิง ๆ เลย แปลกมาก ผมเลยคุยกับแกถามถึงสาเหตุเพราะผมรู้ว่าแกต้องมีของดี แกเลยเล่าให้ฟังว่าแกใช้คาถานี้

   เรื่องที่สอง คุณบุญชู เป็นพนักงานบนอำเภอ แผนกสำมะโนประชากร อยู่จังหวัดชัยนาท แกใช้สิงหราชกับคาถาของหลวงพ่อ แกคอยจะใช้ผิดสถานที่หรือไงนี่แหละ จะเป็นด้วยตบะสิงห์ในตัวหรือคาถาหรือหน้าตาแกไม่แน่ชัด พอแกถามคนที่มาติดต่อบางทีก็ถามดี ๆ นี่แหละ พอถามหนที่สองบางทีคนที่มาติดต่อกำลังยืนอยู่ถึงกับรูดลงมานั่งยอง ๆ ยกมือไหว้เลย แต่มีผลเสียคือเจ้านายเกรงใจ ผลข้างเคียงของความเกรงใจตามมาคือ ไม่เรียกใช้และเกรง ๆ เกลียด ๆ แต่ถ้าเป็นหัวหน้าเขา รู้สึกดีมากลูกน้องรักและเกรงใจ แต่ถ้าไปติดต่อกับเจ้านายก็ดีเหมือนกัน

   เรื่องที่สาม ศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่งชื่อสมนึก เป็นคนสรรค์บุรี เป็นพ่อค้าตลาดเช้า ปกติไปขายของมีปลัดของหลวงพ่อติดตัวไปขายของดี วันหนึ่งกิจการขายของดีขึ้นเรื่อย เลยให้ภรรยามาตั้งหาบขายของช่วยอีกทีหนึ่งขายคนละที่ คุณสมนึกเลยถอดปลัดให้ภรรยาไปติดตัวเพราะเคยใช้ได้ผลดี ส่วนตนเองได้ไปหยิบสิงห์ตะกั่วของหลวงพ่อมาอาราธนาติดตัวไปขายของ จะเป็นด้วยตบะในตัวคุณสมนึกที่มีสิงห์ติดตัว หรือคุณสมนึกจะดวงไม่ดีไม่แน่ชัด ปรากฏว่าแกขายของไม่ได้เลย พอมีคนถามแล้วมองหน้าแกเขาไม่ต่อแต่เดินผ่านไปเฉย ๆ จนสายก็ขายของไม่ได้ สนภรรยาแกขายหมดไปแล้ว ใหม่ ๆ แกก็ไม่แน่ใจ ตอนหลังเอาติดตัวไปอีก ไม่มีใครกล้าต่อราคาไม่ถามเฉย ๆ เลย แกเลยให้ข้อยุติว่าสิงห์ของหลวงพ่อขายของไม่ดี คนเกรงใจ คนกลัว

   เรื่องที่สี่ เรื่องสุดท้ายแล้วกัน ศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่งชื่อ สมาน ยอดย้อย  เป็นนักเลงเป็นคนจริง บ้านเดิมเป็นคนใกล้ ๆ วัด ปัจจุบันทราบว่าอยู่ทางประตูน้ำ บางประอิน อยุธยา เป็นคนหนึ่งที่ยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ เคยโดนยิงมานักต่อนักนับครั้งไม่ถ้วน โอกาสหน้าจะนำเรื่องชีวิตของพี่สมาน มาเล่าให้ศิษย์รุ่นหลังได้ฟัง ผมเคยพบพี่สมาน ครั้งที่มาบวชแก้บนให้หลวงพ่อที่วัด พี่สมานเล่าว่าขณะอยู่ในป่าในดง นอนอยู่ใต้ต้นไม้ ในถ้ำ เคยเจอกับเจ้าถ้ำ เคยเจอกับนางไม้ แกใช้คาถาสิงหราชนี้ภาวนา นางไม้ เจ้าถ้ำ เจ้าป่าไม่มายุ่งกับแกเลย เวลาภายนาแม้จักจั่นก็ไม่ร้อง หนูและแมลงไม่มารบกวนเลยเป็นอัศจรรย์ คาถานั้นหลวงพ่อให้ไปแกใช้ควบกับคาถาเสือสมิง

   เกี่ยวกับสิงห์ของหลวงพ่อก็คงจบเพียงเท่านี้ อภินิหารไม่มากนักแต่ใช้ติดตัวดี รูปแบบดูยากสักหน่อย เคยเจอของลุงสุรินทร์เป็นกรรมการวัด เนื้องาช้างแกะ หนหนึ่งหายไป ตอนหลังไปเจอในกองไฟ ดับไฟแล้ว เอะใจไปเขี่ย ๆ ดู ปรากฏว่าไม่ไหม้ไฟ พลาสติกก็ไม่ไหม้ นับว่าแปลกมาก ก็ขนาดขวดกระทิงแดงยังละลาย แต่สิงห์ของหลวงพ่อไม่ไหม้ ก็ขอจบเรื่องสิงหราชแต่เพียงนี้....

   ที่มา : คัดลอกมาจากหนังสือนะโม ๒ ฉบับ เป็นบทความที่เขียนโดย เฒ่า  สุพรรณ     
   ฉบับแรก คือ ฉบับที่ ๓๑๗ ประจำวันที่ ๕ – ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕
   ฉบับที่สอง คือ ฉบับที่ ๓๑๘ ประจำวันที่ ๑๕ – ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๕



บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 09:41:57 am »

ผมว่าไม่น่าจะใช้นะครับ รอยจารไม่เป็นธรรมชาติ ถ่ายชัดๆ ได้มัยครับอยากเห็น 


ถ่ายใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 09:43:38 am »

ผมว่าไม่น่าจะใช้นะครับ รอยจารไม่เป็นธรรมชาติ ถ่ายชัดๆ ได้มัยครับอยากเห็น 



ถ่ายใหม่ครับ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2011, 09:49:36 am »

ผมว่าไม่น่าจะใช้นะครับ รอยจารไม่เป็นธรรมชาติ ถ่ายชัดๆ ได้มัยครับอยากเห็น 
บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

 
  Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF |