ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
  
    หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก   
 
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หล่อบูชารุ่นสองครับ  (อ่าน 2865 ครั้ง)
มธ.
Full Member
***
กระทู้: 118


อีเมล์
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2010, 11:46:14 am »

รุ่นใหนก็เหมือนกันครับ ขอให้จิตเราถึงหลวงพ่อ เป็นดีครับ แต่ถ้าคิดว่าองค์นี้หนักบ้าน ส่งมาให้ผมดูแล ก็ได้นะครับ จะบูชาให้อย่างดีเลยครับ 
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2010, 12:52:42 pm »

กราบหลวงปู่  รุ่นไหนก็ศัทธาขอให้ด้ายเถอะ

ขอบคุณมากครับ รุ่นนี้ก็ได้นะ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 06, 2010, 12:56:43 pm »

รุ่นใหนก็เหมือนกันครับ ขอให้จิตเราถึงหลวงพ่อ เป็นดีครับ แต่ถ้าคิดว่าองค์นี้หนักบ้าน ส่งมาให้ผมดูแล ก็ได้นะครับ จะบูชาให้อย่างดีเลยครับ 

ขอบพระคุณมากครับ 

รุ่นนี้ผมจำได้แล้วละครับว่าบูชาเมื่อปี 2533 ได้ไปค้นหนังสือนะโมเล่มในสมัยนั้นที่ทางวัดลงโฆษณาเอาไว้เขาบอกว่าเนื้อทองเหลืองเก่าปี 2521 สมัยนั้นผมเองก็เลยเข้าใจว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นสองมาเสียตั้งนาน แต่ก็อยากรู้จังว่ารุ่นนี้ออกปีไหนครับ กรุณาบอกเล่าเก้าสิบกันสักหน่อยนะครับ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 10:41:44 am »

พระคาถาบูชา
หลวงพ่อกวย  ชุตินฺธโร  วัดโฆสิตาราม (บ้านแค)
พระเกจิเถราจารย์แห่งเมืองสรรคบุรี  ชัยนาท

ตั้ง นะโม ๓ จบ
สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สังฆัง  นะมามิ
อิติสุคะโต  ชุตินฺธโร  นะโมพุทธายะ
นะสิวัง  พรหมมา  มะอะอุ


 
บันทึกการเข้า
chaitya
Jr. Member
**
กระทู้: 74


อีเมล์
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 12:13:26 pm »

บูชาตอนปีนั้นผมกำลังเกิดเลยครับ 555+
บันทึกการเข้า

ศิษย์มีครู ดีกว่า คนไม่มีใคร
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 10, 2010, 03:54:49 pm »

บูชาตอนปีนั้นผมกำลังเกิดเลยครับ 555+

เกิดปี 2521 หรือ 2533 ครับ
บันทึกการเข้า
weerawat26
Sr. Member
****
กระทู้: 388


อีเมล์
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2010, 10:02:06 am »

พระคาถาบูชา
หลวงพ่อกวย  ชุตินฺธโร  วัดโฆสิตาราม (บ้านแค)
พระเกจิเถราจารย์แห่งเมืองสรรคบุรี  ชัยนาท

ตั้ง นะโม ๓ จบ
สุปะฏิปันโน  ภะคะวะโต  สาวะกะสังโฆ  สังฆัง  นะมามิ
อิติสุคะโต  ชุตินฺธโร  นะโมพุทธายะ
นะสิวัง  พรหมมา  มะอะอุ


 

นะเมตตา

   หลวงพ่อเป็นพระที่มีอาคมแก่กล้า มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เมื่อมีผู้ทุกข์ร้อนมาหาท่าน เมื่อท่านช่วยเขาไปแล้ว ท่านพูดว่าดีก็จะดี ถ้าท่านพูดว่าอีกสามวันรู้ผล ก็รู้จริง ๆ กล้าพูด พูดด้วยความมั่นใจ

   ในปี พ.ศ.๒๕๑๑ ปลายปี ท่านได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นประทวน ชื่อพระครูกวย ชุตินฺธโร ถ้าเป็นพระครูชั้นสัญญาบัตรจะไม่มีชื่อ พระครูชั้นประทวนนั้น ก็เหมือนทหาร ตำรวจยศจ่านั่นเอง ทางคณะสงฆ์ได้มีหนังสือให้พระที่ได้รับการแต่งตั้ง ให้เดินทางมารับใบตราตั้ง หรือใบแต่งตั้งที่กรุงเทพมหานคร ที่วัดโพธิ์ ท่าเตียน หลวงพ่อไม่ต้องการเป็นพระครูแต่ขัดคำสั่งไม่ได้ เมื่อมีคนขอให้ท่านก็รับในปีนั้น ถ้าจำไม่ผิด สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๑๗ คือ สมเด็จพระสังฆราชปุ่น เป็นผู้แจกให้ เมื่อท่านจะเดินทางมารับ ได้มีกรรมการวัดติดตามมาด้วย และได้ว่าจ้างรถนายเป๋ เป็นรถสองแถวที่วิ่งสายอำเภอสรรค-ชันสูตรไป
 
   แต่รถนายเป๋เก่ามากอย่างหนึ่ง อีกอย่างหนึ่งนายเป๋ไม่ชำนาญทางกรุงเทพฯ กว่าจะพาหลวงพ่อไปถึงวัดโพธิ์ก็สายมาก เมื่อถึงวัดโพธิ์ทางกรรมการวัดและศิษย์ได้ปรึกษากันว่าจะเข้าไปรับใบตราตั้งเอง เพราะเกรงว่าถ้าหลวงพ่อเข้าไปแล้วสมเด็จพระสังฆราชจะตำหนิหลวงพ่อเอาได้ เพราะสายมากแล้ว แต่เมื่อได้เข้าไปหาหลวงพ่อบอกความประสงค์ให้ท่านทราบ ท่านกลับทำเฉยไม่วิตกกังวล ท่านพูดว่า

   “เรามาสาย ยังดีกว่าไม่มา เราเป็นครูเป็นอาจารย์เขา เรื่องแค่นี้เราทำไม่ได้ วันหน้าใครเขาจะนับถือเรา”

   ท่านห่มผ้าเรียบร้อย ก่อนที่ท่านจะเข้าไปในอุโบสถวัดโพธิ์ ท่านสงบนิ่งคล้าย ๆ จะว่ามนต์ แล้วท่านก็เดินเข้าไปพระที่มารับใบตราตั้งเต็มไปหมดเป็นร้อยรูป มองท่านเป็นตาเดียวกัน แม้แต่พระสังฆราชปุ่นก็มอง ท่านเดินก้มตัวเล็กน้อย สำรวม ท่านเดินตรงดิ่งไปหาสมเด็จพระสังฆราช สังฆราชปุ่นก็มองท่านอยู่ พอท่านเข้าไปกราบสมเด็จพระสังฆราชได้ ๑ ครั้ง สมเด็จพระสังฆราชได้มารับมือท่านเอาไว้ไม่ให้กราบอีก พระองค์ทรงตรัสว่า
 
   “พอเถอะ พอแล้ว อาจารย์ชื่ออะไร มาจากไหน”

   หลวงพ่อได้ตอบว่า “กระผมชื่ออาจารย์กวย มาจากวัดโฆสิตาราม รถที่กระผมจ้างมา เขาไม่รู้จักทางกรุงเทพฯ เขาพาหลงอยู่เสียนาน กระผมเสียใจ กระผมมาสาย มาไม่ทัน”

   เพียงคำตอบซื่อ ๆ ตรง ๆ ของท่าน ทำให้สมเด็จพระสังฆราชปุ่นเมตตาและสงสารหลวงพ่อมาก พระองค์ทรงตรัสว่า
 
   “เคยได้ยินชื่อเสียงอยู่เหมือนกัน”

   และชวนหลวงพ่อค้างเสียที่วัดโพธิ์สักคืนหนึ่ง แต่หลวงพ่อก็ปฏิเสธ ท่านพูดว่ามากันหลายคนเกรงจะไม่สะดวก ในวันนั้นพระสงฆ์ที่มารับตราตั้ง ต่างมองท่านเป็นตาเดียวกัน บ้างก็พูดซุบซิบกันว่า พระองค์นี้สงสัยจะเส้นใหญ่ บ้างก็พูดว่าสงสัยนะเมตตาดีกราบแค่เพียงครั้งเดียวสมเด็จพระสังฆราชก็มารับมือเลย พระตั้งหลายร้อยรูปต้องกราบ ๓ ครั้งทั้งนั้น มาสายแต่ไม่โดนตำหนิเลย

   เรื่องนี้แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม แต่ศิษย์ก็ภูมิใจในตัวหลวงพ่อ ที่หลวงพ่อพูดว่า
   “เรามาสาย ยังดีกว่าไม่มา เราเป็นครูเป็นอาจารย์เขา เรื่องแค่นี้เราทำไม่ได้ วันหน้าใครเขาจะนับถือเรา”

   ที่มา : คัดลอกมาจากหนังสือนะโม  เป็นบทความที่เขียนโดย เฒ่า  สุพรรณ     
   ฉบับที่ ๓๖๕ ประจำวันที่ ๕ – ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๓๖


 
บันทึกการเข้า
saisai
Full Member
***
กระทู้: 202


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 11, 2010, 02:31:24 pm »

พระบูชาของหลวงพ่อ ไม่ว่ารุ่นไหนก็ขลังนัก ขนาดตัดรูปจากในหลังสือมาบูชาบอกกล่าวท่านยังช่วย 
ช่ายครับพี่หนุ่ม บ้านแหลม รูปหลวงพ่อกวย ไม่ต้องเสก ก้อเข้มขลังนักแล ขอให้ตั้งจิตระลึกถึงท่านดีๆ อธิษฐานสิ่งใดสำเร็จสมดั่งหวังทุกประการ เหมือนหลวงพ่อกวยท่านรับรู้อยู่นะครับพี่ ขอกราบหลวงพ่อกวยครับผม
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

 
  Powered by SMF 1.1.10 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC | Thai language by ThaiSMF |